Content

สิ่งที่น่ากลัวคือใจคน

Friday, November 28, 2008
ในภาวะวุ่นวายของสังคมประเทศไทย ทั้งสองฝ่ายโจมตีกันอย่างถึงพริกถึงขิง ขุดเรื่องราวต่างของฝ่ายตรงข้ามมาโจมตีกัน มีเรื่องราวมากมายจนไม่รุ้ว่าเรื่องใดเรื่องจริง เรื่องใดโม้ ยิ่งฟังยิ่งมันส์ ยิ่งฟังยิ่งเกลียดฝ่ายตรงข้าม

ซึ่งการโจมตีฝ่ายตรงข้ามให้ได้ผลมากที่สุดก็ต้องให้ผู้ฟังมีอารมณ์ร่วมมากที่สุด เรียกให้ง่ายว่าต้องให้ผู้ฟัง"อิน" ที่สุด ซึ่งคล้ายๆกันสะกดจิตครับ

ณ เวลานี้ก็ไม่รู้ว่าใครจะชนะในที่สุด แต่ผมก็แอบเชียร์อยุ่ในใจดังไปถึงคนข้าง ถึงใครจะชนะ สิ่งหนึ่งที่จะเกิดหลังจากจบเหตุการณ์ก็คือ เกิดบรรทัดฐานใหม่ๆ ในสังคมก็คือไม้ตายของทั้งสองฝ่าย อย่างแรกก็คือการอารยะขัดขืน ไม่รู้ว่าหลังจากนี้จะมีคนนำวิธีการนี้ไปใช้ในทางที่ผิดหรือไม่ นักเรียนอารยะัขัดขืนอาจารย์ ลูกอารยะขัดขืนพ่อแม่ ซึ่งคงต้องมีการปรับตัวกับซักระยะ และอีกอย่างคือการดื้อ ไม่รู้ไม่ชี้ ไม่มีกฎหมายบังคับ ถึงบังคับก็จะแก้ คนไม่เชื่อถือในกฎหมาย แทบจะเป็นแค่กระดาษใบหนึ่ง

บางทีคนเราอยู่ในสถานะการณ์บางอย่างนานๆ จนกลายเป็นความเคยชิน โดนกรอกหูอยุ่ทุกวัน สิ่งนั้นฝังลึกในจิตใจของทุกๆคน ของทุกฝ่าย

ส่วนตัวเคยจนปลักอยู่ในอบายมุกบางอย่าง จนทำให้มองว่าสังคมรอบด้านเป็นอย่างที่ตัวเองคิด คงคล้ายๆกับเด็กที่ติดเกมส์แล้วคิดว่าการฆ่าคนไม่มีความผิด

ที่เขียนวันนี้ก็เพราะคิดว่าหลังจากนี้คนไทยจะกลายเป็นลักษณะเดียวกับที่เคยเป็นมากับตัวเองช่วงหนึ่ง

แต่สถานะการณ์แบบนี้มันก็คงเหมือน"มอร์ฟีน" จำเป็นต้องใช้เพื่อให้รอดชีวิตกันต่อไปยาแรงอย่างไรก้ต้องใช้กันไป และเมื่อหายดีก็ต้องรักษาให้หายจากการติดมอร์ฟีน

เคยมีนักข่าวท่านนึงบอกว่า ถ้าหลังจากเหตุการณ์นี้จบแล้ว คนทั้งสองฝ่ายที่ใช้เวลาเกือบปีในการต่อสู้ จะทำอย่างไร บางอย่างในชีวิตคงหายไป หวังว่า ว่างๆคงไม่ทะเลาะกันนะครับ


รอลุ้นให้...ไปวัด

0 comments:

Post a Comment

Labels

Followers

Powered by Blogger.
My Ping in TotalPing.com